KWM ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% แตะ 600 ล้านบาท พร้อมดัน “เคดับบลิวเอชบี (KWHB)” เดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงสกัดพืชสมุนไพร ตั้งแต่ 14 มี.ค.นี้ ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 10 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 4-5 ปีหลังการขยายเครื่องจักร รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น
 
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า ปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 20% หรือแตะ 500-600 ล้านบาท สอดคล้องกับธุรกิจหลักผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ได้แก่ ใบผาน มาจากลูกค้ารายใหญ่ เช่น สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ราว 400-500 ล้านบาท และลูกค้ารายอื่น 100 ล้านบาท
 
สำหรับโรงงานสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพร ดำเนินการภายใต้บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) ระหว่าง KWM ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และกลุ่มพันธมิตร จากประเทศจีน Liangtian Agriculture and Forestry Technology Co., Ltd. คาดสามารถดำเนินการการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย ตั้งแต่ 14 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป ระยะแรกจะเริ่มเดินเครื่องสกัดสารจากมะขามป้อมก่อน หลังจากนั้นมีแผนสกัดสารสำคัญจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ ดาวเรือง ขมิ้นชัน เป็นลำดับถัดไป
 
ปัจจุบันโรงสกัดมีขนาดกำลังการผลิตจะอยู่ที่ 200 กิโลกรัมต่อวัน ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรที่สามารถสกัดสารระดับนาโน (nano) ซึ่งเป็นระดับที่เล็กมาก ส่งผลให้การดูดซึมสารสำคัญในระดับเซลล์ทำได้ดีขึ้นการออกฤทธิ์อาจมีความสามารถเทียบเท่ายาเคมีแผนปัจจุบัน คาดว่าจะเริ่มส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าได้ภายในไตรมาส 2/67 และคาดรับรู้รายได้ในปีแรก 10 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า โดยมีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการมาขอซื้อสารสกัดจาก KWHB แล้วหลายราย อาทิ โรงพยาบาล หัวเฉียว โรงพยาบาลอภัยภูเบศร บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลนครพนม เป็นต้น เพื่อนำสารสกัดที่ได้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มสินค้าประเภทยา เครื่องดื่ม อาหารเสริม เครื่องสำอาง และอื่นๆ
 
KWHB มีเครื่องจักรชุดเดียว (เครื่องสกัดอุลตร้าโซนิค, เครื่องสกัด(CO2), เครื่องระเหยความเร็วสูง และเครื่อง Vacuum Spray Dryer) แต่ในอนาคตก็มีแผนจะสร้างเครื่องจักรชุดที่ 2 และ ชุดที่ 3 เพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดและขยายการรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
 
ทั้งนี้ อาหารเสริมที่ใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพรได้รับความนิยมสูง เนื่องจากใช้เวลาในการผลิตเร็วกว่าการผลิตเป็นยาดังนั้นจึงทำให้สารสกัดจากสมุนไพรเป็นหนึ่งในสารสกัดที่ได้รับความนิยมสูงในการนำเข้าไปเป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารเสริม ส่งผลให้การสกัดของเราต้องยิ่งมีคุณภาพเพื่อให้สอดรับกับมาตรฐานสากล และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ KWHB จึงได้ผนึกกับบริษัท K-Lab จำกัด เพื่อใช้ห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บ (Lab) สำหรับตรวจสอบคุณภาพสินค้า รวมถึงเครื่องตรวจสอบสายพันธุ์ ก่อนจะนำมาสกัดสารเพื่อให้สินค้ามีคุณภาพคงที่และดีที่สุด