|
KWM คาดจะได้ไลเซนส์เครื่องสกัดกัญชงที่ทำกับ JSP Pharma จะได้ช่วงก.ย. - ต.ค.นี้ แย้มเตรียมขอไลเซนส์ทำเครื่องสกัดกัญชงเองอีก 1 ใบ คาดรู้ผลช่วงเดียวกัน หวังรับรู้รายได้ Q4/64 ส่วนงบ Q2/64 มั่นใจโตต่อเนื่อง รับดีมานด์เครื่องจักรการเกษตรพุ่ง
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ถึงความคืบหน้าการขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกัญชง ต่อ สำนักงานอาหารและยา (อย.) ว่า การร่วมมือกับบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP Pharma จัดตั้งโรงงานสกัดกัญชงเพื่อนำไปสู่การผลิตยาและยาสมุนไพรนั้น
โดยล่าสุด JSP Pharma ได้ยื่นขอใบอนุญาตกับ อย. ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งคาดว่าอย.จะใช้ระยะเวลาพิจารณาประมาณ 3-4 เดือน หรือน่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.64 ซึ่งหากเรียบร้อยแล้วคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันที
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลและเอกสารเพื่อยื่นเรื่องขอใบอนุญาต (ไลเซนส์) พัฒนาเครื่องจักรสกัดกัญชงจากอย. ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลารอการอนุมัติประมาณ 3-4 เดือน หรือช่วงเดียวกับกับใบอนุญาตที่ทำกับ JSP Pharma พร้อมคาดว่าน่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/64
สำหรับโครงการดังกล่าวบริษัทจะมีการร่วมพัฒนาเครื่องสกัดโดยร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆตามกฎระเบียบของหน่วยงานภาครัฐ และในส่วนของด้านต้นน้ำ (เมล็ดพันธุ์การปลูก) บริษัทมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.) ในการศึกษาและวิจัยเมล็ดพันธุ์กัญชงที่เหมาะแก่การเพาะปลูกภายในประเทศ
โดยล่าสุดกำลังทดลองปลูกแบบลงดิน จากเดิมที่ปลูกอยู่ในแปลงทดลองเท่านั้น ขณะที่ในอนาคตอาจมีการจับมือหาพันธมิตรใหม่ๆเพิ่มในการรุกธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ จากตอนนี้ที่มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในเครือข่ายแล้วกว่า 200-300 ราย
ด้านแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/64 บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากความต้องการ (ดีมานด์) ใช้เครื่องจักรการเกษตรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและในประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับลูกค้าหลักอย่างบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีความต้องการใช้เหล็กโบรอนของบริษัทเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับกับโมเดลการผลิตรถจักรกลทางการเกษตรรูปแบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และส่งผลให้กำลังการผลิตในปัจจุบันเต็มเกือบ 100% นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 40-50 ล้านบาท สำหรับใช้ก่อสร้างโรงงานใหม่เพิ่ม 1 แห่ง และรองรับการเพิ่มไลน์การผลิตที่ 3 จากเดิมที่มีการเพิ่มไลน์การผลิตที่ 2 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
|
