KWM ใช้งบ 40 ลบ.สร้างโรงงานสกัดสารพืชสมุนไพรไทย คาดผลิตได้ก.พ.65 เผยอยู่ระหว่างขออนุญาตอย.ผลิตสินค้าสมุนไพร เห็น 5-10 ตัว ในปี 65 หวังส่วนแบ่งการตลาดสมุนไพรไทย 10% ในอีก 5 ปี
  นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยในงานแถลงข่าว KWM ต่อยอดธุรกิจดัน KWHB สู่การเป็นผู้นำการสกัดพืชสมุนไพรไทย ว่า สำหรับบริษัทย่อยในเครือ คือบริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด หรือ KWHB ซึ่งดำเนินธุรกิจสกัดสารสำคัญ และจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพรไทย ใช้งบลงทุน 40 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานสกัดสารพืชสมุนไพรไทย
  ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงาน และทยอยติดตั้งเครื่องจักรสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงก.พ.65 และนำสารสกัดไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องสำอาง อาหารเสริม ยา เครื่องดื่ม และอื่นๆได้ทันที
  สำหรับระยะแรกของการดำเนินงานโรงสกัด บริษัท KWHB จะใช้พืชใบกระท่อมมาเป็นตัวหลักในการสกัดสารสำคัญ ภายหลังจากรัฐบาลประกาศปลดล็อกพืชกระท่อมออกจาก พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงยังมีการศึกษาการสกัดพืชสมุนไพรอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม มะม่วงหาวมะนาวโห่ เพื่อนำสารสกัดไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
  เบื้องต้นคาดว่าจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และยา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3 - 4 เดือน หลังจากที่ดำเนินการขอ และหากกระบวนการทุกอย่างแล้วเสร็จ คาดว่าจะเริ่มทยอยออกผลิตภัณฑ์พร้อมทำการตลาดสินค้าจากพืชสมุนไพร ประมาณ 5 - 10 ผลิตภัณฑ์ ในปี 65
  ปัจจุบันมีลูกค้า และผู้ที่สนใจสกัดสารจากพืชสมุนไพรไทยของ KWHB ทั้งในและนอกตลาดหุ้น เป็นบริษัทรายใหญ่รวมประมาณ 5 ราย
  โรงงานดังกล่าวใช้งบการลงทุนไม่มาก เนื่องจากผู้ถือหุ้นมีเครื่องมือและอุปกรณ์บางส่วนอยู่แล้ว โดยโรงงานตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร
  บริษัท KWHB มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นคือ KWM ถือหุ้น 51% , บริษัท เฮมพ์บิซ จำกัด ถือหุ้น 40% ส่วนที่เหลืออีก 9% เป็นกลุ่มพันธมิตรอื่นๆ
   คาดหวังจะมีส่วนแบ่งทางการตลาด ในด้านมูลค่าพืชสมุนไพรที่เกี่ยวข้องทั้งอาหารและยา ประมาณ 10% ในอีก 5 ปีข้างหน้า (65-69) จากปัจจุบันงานวิจัยระบุมูลค่าตลาดอยู่ที่ระดับประมาณ 48,000 ล้านบาท
  "มาร์เก็ตแชร์ 10% คิดว่าใน 5 ปี น่าจะเป็นไปได้ โดยเราจะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งคิดว่าน่าจะแย่งมาร์เก็ตแชร์ได้มากพอสมควร หลังกระแสเรื่องสารสกัดกำลังมา ซึ่งเราสามารถแยกได้ว่าสารสกัดแต่ละตัวได้คุณภาพและประโยชน์อะไรบ้าง" นายเอกพันธ์กล่าว









ลักษณะธุรกิจของ KWM
บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ได้แก่ ใบผาล โครงผาล ใบเกลียวลำเลียง และใบดันดิน